วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Miss call สายสุดท้าย

เรื่องนี้เป็น Forward Mail ที่เคยได้รับจากเืพื่อนคนหนึ่ง
ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
แต่ก็อยากให้ลองอ่านดูนะคะ



ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆผมก็โทรคุยกับแฟนของผม

ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม
และผม ก็เ
ชื่อว่าใครๆเขาก็ทำแบบนี้กัน
'จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าว รึยัง'


'กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย'
'รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย
เค้าอยากเป็นกระสือ ที่รักจะได้เห็นใจไง'

'ตัวเองวางก่อนดิ '
ประโยคต่างๆที่ผมได้คิดและคัดสรร เตรียมพร้อมมาต่างๆก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอน ดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้ง นั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็
ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน

กิจวัตรอีกอย่างนึงของผม ก็คือ แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน
'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง'

'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย'
'วันนี้เรียนเป็นยังไง บ้าง'


'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่!คำถามเดิมๆ ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ

โชคดี!ที่ผมพยายามคุยตัดบท
ผมกับแม่
น่ะ คุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็เพราะมันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น....
'ตัวเองตอบเค้าได้รึยัง ว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ
เค้าก็บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'


'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน
ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อ ว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมตัดสินใจไม่รับสายแม่ผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รัก ของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ

และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่

.................................................................................................................

หลังจากนั้นไม่นาน ญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า
เมื่อคืนนี้ขโมยขึ้นบ้านของผมเืพื่อขโมยของ
แม่ของผมขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผม
ยังเล่าอีกว่า...
ตอนไปพบศพแม่ของผม ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุดของแม่ผม
ไม่ใช่เบอร์
ตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล
แต่...แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'

สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ
โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม
ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น

ในวันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนขอฝผมดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
ผู้หญิงคนเดียวในโลก
ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่ผม
สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ

ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ ต้องมีมุขตลกขำขัน ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ

ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่โทรมาหาผมเพียง แค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ
ผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโป รโมชั่นแพงแค่ไหน ก็ยังโทรหาผม
'และผู้หญิงคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผม ในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'
บางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง
'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลกเกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้น
ไม่นาน แฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันละหลายๆชั่วโมง เธอก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราได้เสียมันไปแล้ว'
ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอ
ที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่...ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว



ที่มา : Forward Mail

วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

Final!!

UNIT 6
Nouns
Adoption ====>การเลือกรับเอามา
Doubt ====>ความสงสัย,ความไม่เชื่อถือ
Odd ====>สิ่งแปลก,เลขคี่
Reunion ====>การชุมนุมกัน
Suburb ====>ชานเมือง
Stranger ====>คนแปลกหน้า, คนต่างถิ่น
Superstition====>ความเชื่อในทางไสยศาสตร์

Verbs
adopt ====>รับเอามา
arrange ====>จัดเตรียม
get in touch====>ติดต่อกับ
predict ====>ทำนาย
separate ====>บอกความแตกต่าง, แยกแยะ, วินิจฉัย

Adj.
cautious ====>รอบคอบ
identical====>เหมือนกัน
neutral ====>ซึ่งเป็นกลาง, ซึ่งไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
noticeable====>น่าสนใจ,น่าดึงดูดใจ,โดดเด่น
similar ====> เหมือนกัน
strange ====>แปลกหน้า
weird ====> แปลกประหลาด


Adv.
Constantly====>แน่วแน่,ไม่เปลี่ยนแปลง
recently ====>เมื่อไม่นานมานี้
shortly ====> ในไม่ช้า

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

รู้ไว้ ไม่เสียหาย...

1. การแลบลิ้นให้น้ำลายยืดลงพื้น 3 หยดจะแก้เผ็ดได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
อาการเผ็ดเกิดจากสารที่ชื่อ แคปไซซิน ที่อยู่ในพริกเข้าไปจับกับปลายประสาทรับรถที่ลิ้นร่างกายก็จะแสดงปฎิกริยาโดบขับน้ำลายออกมาชะล้างเอาเจ้าสารนี้ออกไป



2.ดูดนมยางของเด็กทารกตอนนอนจะแก้อาการนอนกรนได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
การคาบหรืออมนายางของเด็กทารกไว้ในปากจะทำให้ลิ้นในปากอยู่นิ่ง ก็จะพลอยให้เนื้อเยื่อของเพดานไม่กระเทือนสั่นไหวขึ้นจึงไม่เกิดอาการกรน และไม่นอนอ้าปากอีกด้วย



3.การสูดกลิ่นตัวผู้ชายทำให้หายเครียดได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
เพราะกลิ่นตัวผู้ชายที่เป็นคนรักนั้นมีสาร ฟีโรโมน ผสมอยู่โดยเฉพาะในผมและผิวของเขาเมื่อสูดดมแล้วจะช่วยลดอาการเครียดและเหนื่อยล้าลงได้



4. แอปเปิ้ลผลิตกระแสไฟฟ้าได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
ถ้าเสียบแผ่นสังกะสี และแผ่นทองแดง กรดในแอปเปิ้ลจะทำให้เกิดการแตกตัวของไอออน ทำให้ลูกแอปเปิ้ลเป็นเหมือนแบตเตอรี่ ซึ่งผลไม้ชนิดอื่นเช่น มะนาว เกรปฟรุ๊ต หรือมันฝรั่งก็ทำได้เช่นกัน



5.ปัสสาวะมนุษย์ใช้ทำยาสีฟันในสมัยโบราณ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
โดยแพทย์ชาวโรมันเชื่อว่า ปัสสาวะมนุษย์ มีคุณสมบัติทำให้ฟันขาว และแข็งแรง ยาสีฟันในยุคดังกล่าว จึงเป็น น้ำยาบ้วนปากที่ทำจากปัสสาวะมนุษย์



6.วัวกระทิงเกลียดสีแดง จริงหรือ?

เฉลย "ไม่จริง"
เพราะ วัวเป็นสัตว์ตาบอดสี ไม่สามารถแยกแยะสีต่างๆได้ แต่การที่วัวเมื่อถูกล่อด้วยผ้าแดงเหมือนในสนามสู้วัว แล้วก็พุ่งเข้าใส่นั้นเป็นเพราะความรำคาญ และเพราะถูกยั่วยุมากกว่า



7.เพชรแท้จะไม่ติดสีหมึก จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
การทดสอบดูเพชรแท้นั้น ให้ป้ายน้ำหมึกสีดำไปบนเพชร ถ้ามีความลื่นออก ไม่ติดอยู่บนเพชรแสดงว่าเป็นเพชรแท้ แต่ถ้ายังมีจุดดำตรงที่แต้มอยู่ ก็แสดงว่าเป็นเพชรเทียม



8.การทะเลาะกันทำให้แผลหายช้า จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
เพราะ ความเครียดที่เกิดขึ้น ทั้งระหว่าง และหลังจากการทะเลาะกัน
จะส่งผลให้ร่างกายลดการผลิตโปรตีนเม็ดเลือด ที่มีประโยชน์ต่อการรักษาบาดแผล
หรือส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้น้อยลง ทำให้บาดแผลต่างๆ หายช้า



9.แสงแดดอ่อนๆ ช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
เพราะ แสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมนเมลาโตนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืดจะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วงเหงา ซึมเซาได้



10.การฟังเพลงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อได้ จริงหรือ?

เฉลย "จริง"
เพราะ การฟังเพลงทำให้สมองหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนสร้างความสุขออกมา ช่วยลดความดันโลหิต และบรรเทาอาการปวดข้อลงได้



ที่มา:http://variety.teenee.com/foodforbrain/16940.html

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กำลังฝันอะไรอยู่นะ?

กฎหมายอย่างนี้ก็มีด้วย...!?

อ่านกันขำๆนะคะ รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com


- FLORIDA ผู้ชายห้ามสวมเสื้อคลุมแบบไม่มีสายคาดเอวทุกชนิดในที่สาธารณะ
- Logan, COLORADO ไม่อนุญาตให้จูบผู้หญิงขณะที่หล่อนหลับ
- ortMadasn, IOWA หน่วยดับเพลิงจำเป็นต้องซ้อมก่อนปฏิบัติการจริง 15 นาที
- St.LouisMISSOUR หากนักดับเพลิงช่วยชีวิตหญิงที่สวมชุดนอนถือว่าผิดกฎหมาย
- Pensacola,FLORIDA หากหญิงคนใดใช้เครื่องไฟฟ้า เสริมแต่งความงามในขณะที่อยู่ในอ่างน้ำแล้วเกิดเหตุไฟฟ้าช็อตตายต้องโดนปรับเงิน
Ottumwa,IOWA ห้ามชายใดขยิบตาให้กับหญิงที่ตนไม่รู้จัก
- FLORIDA การมีสัมพันธ์สวาททางเพศกับ "เม่น" เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
- Oxford,OHIO ห้ามหญิงใดเปลื้องผ้าในขณะที่อยู่หน้ารูปภาพผู้ชายถือว่าผิดกฎหมาย
- Marshel,IOWA ไม่อนุญาตให้ม้ากินก๊อกน้ำประปาสาธารณะที่ถูกไฟไหม้
- FLORIDA ห้ามผายลมในที่ชุมชนหลังหกโมงเย็นของวันอาทิตย์
- RHODE ISLAND มีข้อบัญญัติห้ามให้เจ้าของร้าน ขายยาสีฟันและแปรงสีฟันให้กับลูกค้าคนเดิมในวันอาทิตย์
- Daytona Beach, FLORIDA ห้ามทุบ ยุบ บด บี้ หรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการทำร้าย "กระป๋อง"
- South Bend,INDIANA ใครทำให้ลิงสูบบุหรี่ถือว่าผิดกฎหมาย
- Siaun,ILLINOIS ใครยื่นบุหรี่ให้เราห้ามรับ! ถือว่าผิดกฎหมาย
- FLORIDA ได้รับการพิจารณาแล้วว่า การแก้ผ้าอาบน้ำเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
- Indianola,IOWA ห้ามมีคนขายไอศกรีมกับรถเร่ขายไอศกรีม
- OHIO ห้ามมิให้ตกปลาวาฬในวันอาทิตย์ และห้ามเมาเวลาตกปลา
- Alexsandria,MINNESOTA เป็นหารผิดกฎหมายที่สามี มีเซ็กส์กับภรรยา ห้ามมีกลิ่นของกระเทียม ปลาซาร์ดีน หรือหัวหอมใหญ่อยู่ในลมหายใจ
- Aims,IOWA ผู้ชายมีสิทธิ์จิบเบียร์ได้แค่ 3 อึก ในขณะที่อยู่บนเตียงกับภรรยา
- OKLAHOMA แค่ทำหน้าล้อเลียนใส่สุนัข คุณก็อาจถูกโยนเข้าคุกได้
- Baltimore,MARYLAND ใครพา "สิงโต" เข้าโรงหนังถือว่าผิดกฎหมาย
- MIAMI ใครทำตัวลอกเลียนแบบหรือเอาคนอื่นเป็นเยี่ยงอย่างถือว่าผิดกฎหมาย
- WASHINGTON ใครแสร้งว่ามีพ่อแม่เป็นคนรวยถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมาย


ที่มา: http://dek-d.com/board/view.php?id=1358398

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อยากรู้ก็ต้อง "คลิ๊ก"



ใครอยากทราบว่าบุคคลในภาพทั้ง 4 คนนี้
เขาเป็นใคร? ไปทำอะไรมา?
ก็ขอเชิญชวนให้ลองคลิ๊กเข้าไปในภาพดูนะคะ

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

สัญญาณเตือนจาก"เล็บ"

อย่าคิดว่าเล็บไม่มีความสำคัญ เห็นเป็นแค่ส่วนเกินของนิ้วมือเท่านั้น เล็บมีส่วนประกอบหลักของสารโปรตีนประเภท "เคราติน" (Keratin) ในคนที่มีสุขภาพปกติ เล็บจะมีสีชมพูอ่อนๆ เสมอกัน เนื้อเล็บแข็ง เรียบ ลื่น แต่ถ้าเล็บเริ่มมีรูปร่างหรือสีแปลกไป อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า อาจเกิดความผิดปกติหรือโรคภัยบางอย่าง

1.เล็บมีลักษณะสีขาวเป็นแผ่นตรงกลาง
อาจมีความผิดปกติกับตับ หรือมีโรคที่เกี่ยวกับการทำงานของตับผิดปกติ

2.เล็บมีลักษณะหนากว้าง โค้งมนตามลักษณะของปลายนิ้วที่โตขึ้นและมีสีม่วงคล้ำ
ลักษณะแบบนี้พบมากในผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคตับ และโรคท้องเสียเรื้อรัง

3.เล็บมีลักษณะเป็นหลุม ขรุขระ ไม่เรียบเกลี้ยงเกลา
อาจเป็นโรคผิวหนังที่เรียกว่า สะเก็ดเงิน หรือเรื้อนกวาง เพราะลักษณะแบบนี้จะพบในผู้ป่วยโรคผิวหนังถึง 70%

4.เล็บมีลักษณะขาวซีด อ่อน แบนและบุ๋ม
ลักษณะแบบนี้พบมากในคนที่ขาดธาตุเหล็ก ซึ่งมักจะเป็นโรคโลหิตจาง

5.เล็บมีลักษณะเป็นสีเหลือง
ถ้าพบลักษณะแบบนี้ในเล็บบนนิ้วมือที่ถนัด อาจเป็นเพราะสารนิโคตินที่มาจากบุหรี่เกาะบนเล็บที่ใช้คีบบุหรี่ ลักษณะนี้จะพบมากในผู้ป่วยโรคปอด

6.เล็บมีลักษณะเป็นจุดหรือเส้นสีม่วงที่เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตก
จะพบมากในผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจอักเสบ โรคลิ้นหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดอักเสบ และโรคขาดวิตามินซี

7.เล็บมีลักษณะเป็นดอกหรือจุดขาวๆ หรือเป็นเสี้ยวพระจันทร์
อาจขาดสารอาหารบางอย่างที่ทำให้เซลล์สร้างเล็บได้ไม่สมบูรณ์ หรือกำลังมีปัญหาสุขภาพ อาจจะมีโรคภายในที่ทำให้เจ็บป่วยหนักขึ้น

8.เล็บมีลักษณะสีดำ
ส่วนมากพบในคนที่ขาดวิตามินบี 12 และในผู้ป่วยโรคลำไส้ผิดปกติ อาจมีจุดดำๆ เกิดขึ้นตามเนื้อเยื่อของลำไส้เยื่อบุปากและริมฝีปาก

ต่อไปเวลาตัดเล็บ อย่าลืมสังเกตความผิดปกติของสีเล็บด้วยทุกครั้ง ถ้าพบความผิดปกติดังที่กล่าว ปรึกษาแพทย์เป็นดีที่สุด

ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด